เปิดแล้ว! AWS Thailand Region (ap-southeast-7) มาลองใช้งานดูกัน
ข่าวด่วนๆ วันนี้ผมเปิด AWS Management Console มา เจอกับหน้าเปลี่ยนเมนู ไป Thailand Region เลยจะมาแชร์วิธีการเปิดการใช้งาน Thailand Region กันครับ
วิธีที่เปิดใช้งาน Thailand Region
หากเรามี AWS Account อยู่ จะสามารถใช้งานทุก Region ได้อยู่แล้ว
แต่ทว่า! การจะเริ่มใช้งาน Thailand Region นั้นจำเป็นต้องมีการตั้งค่านิดหน่อย
ให้เรากด ด้านขวาบนของ ManagementConsole ครับ
ในหัวข้อ Region ให้เลื่อนลงมาด้านล่างสุด
แล้วคลิกที่ Manage Region ครับ
(อันที่ยังไม่เปิดจะขึ้นว่า Disable อันนี้ผมเปิดการใช้งานอยู่แล้วเลยขึ้นว่า Enable)
ในหน้าต่างที่แสดงอยู่ที่เราเลื่อนลงมานั้นจะมีหัวข้อ "AWS Regions" อยู่ ให้เราทำการติ๊ก "Asia Pacific (Thailand)" แล้วคลิก Enable
จะขึ้นหน้าให้ยืนยัน ให้เราทำการคลิก Enable Region
จำเป็นต้องรอไปสักพักครับ
ถ้าขึ้นแบบนี้คือเสร็จแล้วครับ
Service ที่ใช้ได้ใน Thailand Region
ณ วันที่ 08/1/2025 มี Service ที่ใช้งานได้ส่วนใหญ่มีดังต่อไปนี้
แน่นอนว่า EC2, S3, VPC, CloudFront, ELB, RDS, ECS, EKS, Redshift ที่เป็นบริการพื้นฐานนั้นมีการเปิดให้ใช้บริการปกติ และ Direct Connect ก็มีเปิดให้ใช้งานได้เลยตั้งแต่เปิด Region ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมากๆ
ในทางตรงกันข้าม ไม่บริการพวก IoTCore, AppRunner, Amplify, Cognito, SageMaker, Athena ซึ่งต้องรอดูกันต่อไป
รายละเอีดยดยิบย่อย ของ Service ที่เปิดให้ใช้งาน ณ ตอนนี้ สามารตรวจสอบได้ในลิ้งค์ด้านล่าง
บริการของ AWS ตาม Region - AWS
เกี่ยวกับค่าบริการ
ผมลองทำการตรวจสอบค่าบริการ ณ วันที่ 08/1/2025 มานิดหน่อยด้วยครับ
ที่น่าสนใจคือราคาของ EC2 ครับ
ลองดูคร่าวๆแล้ว ราคาของ Thailand Region จะถูกตั้งค่าให้ถูกกว่า Singapore Region อยู่นิดหน่อยครับ
t3.nano : USD 0.0066 (Singapore)
t3.nano : USD 0.0059 (Thailand)
t4g.nano : USD 0.0053 (Singapore)
t4g.nano : USD 0.0048 (Thailand)
นอกจากนี้ ยังไม่มี ซีรีย์ t3a แต่ราคา t3 เท่ากับกัน t3a ครับตอนนี้
รายละเอียดค่าใช้จ่าย อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง สามารถตรวจสอบได้ที่บทความด้านล่าง
ราคา EC2 Instance ตามความต้องการ – Amazon Web Services
สรุป
Thailand Region เริ่มขึ้นแล้ว ทำให้การใช้ AWS ใน ASEAN ง่ายขึ้นครับ
ถึงแม้จะที่บริการบางตัวที่ไม่สามารถใช้งานได้ แต่มีข้อดีที่ราคาถูกกว่า Singapore ถือว่าค่อนข้างดีครับ
สำหรับคนไทยอย่างเรา การได้มี Data Center จากบริษัทระดับโลกมาเปิด ผมคิดว่าน่าจะทำให้เราสามารถพัฒนาอะไรใหม่ได้มากขึ้นตามความต้องการของเรา
(ที่แน่ๆ ตอนนี้ก็สามารถเก็บข้อมูลในประเทศดตัวเองได้ละ)